เยเรมีย์ 3
2 “จงแหงนตาของเจ้าขึ้นสู่บรรดาที่สูงนั้น และดูว่าที่ไหนบ้างที่เจ้าไม่มีคนมานอนด้วย ในทางทั้งหลายเจ้าได้นั่งคอยคนรักเหล่านั้น เหมือนอย่างคนอาระเบียในถิ่นทุรกันดาร และเจ้าได้กระทำให้แผ่นดินนั้นโสโครกด้วยการแพศยาทั้งหลายของเจ้าและด้วยความชั่วช้าของเจ้า
3 เพราะฉะนั้นฝนทั้งหลายจึงได้ถูกระงับเสีย และไม่มีฝนชุกปลายฤดู แต่เจ้าเคยมีหน้าผากของหญิงโสเภณี เจ้าได้ปฏิเสธที่จะมีความละอาย
4 ตั้งแต่เวลานี้ไปเจ้าจะไม่ร้องเรียกเราหรือว่า ‘พระบิดาของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นผู้ชี้นำแห่งวัยสาวของข้าพระองค์
5 พระองค์จะทรงสำรองพระพิโรธของพระองค์ไว้เป็นนิตย์หรือ พระองค์จะทรงเก็บมันไว้จนถึงที่สุดปลายหรือ’ ดูเถิด เจ้าได้พูดแล้ว และได้กระทำบรรดาสิ่งชั่วร้ายตามซึ่งเจ้าสามารถกระทำได้”
6 พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าในรัชกาลของกษัตริย์โยสิยาห์ด้วยว่า “เจ้าได้เห็นสิ่งซึ่งอิสราเอลผู้หันหลังกลับได้กระทำหรือ เธอได้ขึ้นไปบนภูเขาสูงทุกลูก และใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น และที่นั่นได้ทำตัวเป็นหญิงแพศยา
7 และหลังจากเธอได้กระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นแล้ว เราได้กล่าวว่า ‘เจ้าจงหันกลับมาหาเรา’ แต่เธอก็ไม่กลับมา และยูดาห์น้องสาวที่ทรยศของเธอก็เห็นสิ่งนั้น
8 และเราได้เห็น เมื่อเพราะเหตุทั้งสิ้นที่อิสราเอลผู้หันหลังกลับได้เล่นชู้นั้น เราได้ไล่เธอไป และได้มอบหนังสือแห่งการหย่าให้เธอ ถึงอย่างนั้นยูดาห์น้องสาวที่ทรยศของเธอนั้นก็ไม่กลัว แต่ไปและได้ทำตัวเป็นหญิงแพศยาด้วย
9 และต่อมาโดยความรวดเร็วแห่งการแพศยาของเธอ เธอก็กระทำให้แผ่นดินโสโครกไป และเล่นชู้กับบรรดาก้อนหินและกับท่อนไม้ทั้งหลาย
10 และถึงแม้เพราะเหตุสิ่งสารพัดเหล่านี้แล้ว ยูดาห์น้องสาวที่ทรยศของเธอก็มิได้หันกลับมาหาเราด้วยสิ้นสุดใจของเธอ แต่แสร้งทำ” พระเยโฮวาห์ตรัส
11 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลผู้หันหลังกลับได้สำแดงตัวว่าเธอเองมีผิดน้อยกว่ายูดาห์ที่ทรยศ
12 จงไปและประกาศถ้อยคำเหล่านี้ไปทางทิศเหนือ และกล่าวว่า ‘กลับมาเถิด เจ้า อิสราเอลผู้หันหลังกลับเอ๋ย พระเยโฮวาห์ตรัส และเราจะไม่ทำให้ความกริ้วของเราสวมทับพวกเจ้า เพราะเราเปี่ยมด้วยความเมตตา พระเยโฮวาห์ตรัส และเราจะไม่เก็บความกริ้วไว้เป็นนิตย์
13 เพียงแต่ยอมรับความชั่วช้าของเจ้าว่า เจ้าได้ละเมิดต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า และได้กระจายทางทั้งหลายของเจ้าให้แก่พระอื่น ๆ ที่อยู่ใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น และพวกเจ้ามิได้เชื่อฟังเสียงของเรา’” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ
14 “หันกลับมาเถิด โอ ลูกหลานที่หันหลังกลับเอ๋ย” พระเยโฮวาห์ตรัส “เพราะเราได้แต่งงานกับพวกเจ้าแล้ว และเราจะรับพวกเจ้าจากนครละคน และจากครอบครัวละสองคน และเราจะนำพวกเจ้ามาถึงศิโยน
15 และเราจะให้บรรดาผู้เลี้ยงแกะตามใจของเราแก่พวกเจ้า ผู้ซึ่งจะเลี้ยงพวกเจ้าด้วยความรู้และความเข้าใจ
16 และต่อมาเมื่อพวกเจ้าทวีและเพิ่มขึ้นในแผ่นดินนั้น ในวันเหล่านั้น” พระเยโฮวาห์ตรัส “เขาทั้งหลายจะไม่กล่าวอีกต่อไปว่า ‘หีบแห่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์’ และสิ่งนี้จะไม่มีขึ้นในใจ และพวกเขาจะไม่จดจำสิ่งนี้ และพวกเขาจะไม่เยี่ยมเยียนสิ่งนี้ และสิ่งนั้นจะไม่ถูกกระทำกันอีกเลย
17 ในเวลานั้นพวกเขาจะเรียกกรุงเยรูซาเล็มว่า พระที่นั่งของพระเยโฮวาห์ และบรรดาประชาชาติจะรวบรวมกันเข้ามายังกรุงนั้น มายังพระนามของพระเยโฮวาห์ มาสู่กรุงเยรูซาเล็ม และพวกเขาจะไม่เดินตามเค้าความคิดแห่งใจอันชั่วร้ายของพวกเขาอีกต่อไป
18 ในวันเหล่านั้นวงศ์วานของยูดาห์จะเดินกับวงศ์วานแห่งอิสราเอล และเขาทั้งสองจะรวมกันออกมาจากแผ่นดินฝ่ายเหนือ มายังแผ่นดินที่เรามอบให้เป็นมรดกแก่บรรพบุรุษของพวกเจ้าแล้ว
19 แต่เราได้กล่าวว่า ‘เราจะตั้งเจ้าไว้ในท่ามกลางบุตรทั้งหลาย และให้แผ่นดินที่น่าปรารถนาแก่เจ้า เป็นมรดกที่ดีที่สุดแห่งบรรดาประชาชาติได้อย่างไรเล่า’ และเราได้กล่าวว่า ‘เจ้าจะเรียกเราว่า พระบิดาของข้าพระองค์ และจะไม่หันไปเสียจากเรา’
20 แน่นอนทีเดียวที่ภรรยาทรยศละทิ้งสามีของนางฉันใด พวกเจ้าได้ประพฤติอย่างทรยศต่อเราฉันนั้น โอ วงศ์วานแห่งอิสราเอลเอ๋ย” พระเยโฮวาห์ตรัส
21 มีเสียงหนึ่งถูกได้ยินบนที่สูงทั้งหลาย เป็นเสียงร้องไห้และเสียงวิงวอนของลูกหลานของอิสราเอล เพราะพวกเขาได้บิดเบือนทางของพวกเขาเสียแล้ว และพวกเขาได้ลืมพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเขาแล้ว
22 “จงกลับมาเถิด พวกเจ้า บรรดาบุตรที่หันหลังกลับเอ๋ย และเราจะรักษาความหันหลังกลับของพวกเจ้าให้หาย” “ดูเถิด ข้าพระองค์ทั้งหลายมาหาพระองค์แล้ว เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย
23 ความรอดที่หวังจากเนินเขาทั้งหลายนั้นก็เปล่าประโยชน์อย่างแท้จริง และจากภูเขามากมาย แท้จริงความรอดของอิสราเอลนั้นอยู่ในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเรา
24 ด้วยว่า ความอับอายได้เผาผลาญการงานตรากตรำของบรรพบุรุษของพวกเราตั้งแต่วัยหนุ่มสาวของพวกเรา คือฝูงแพะแกะของพวกเขา และฝูงวัวของพวกเขา บุตรชายทั้งหลายของพวกเขา และบุตรสาวทั้งหลายของพวกเขา
25 พวกเรานอนลงในความอับอายของพวกเรา และความสับสนของพวกเราคลุมพวกเราไว้ เพราะพวกเราได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเรา ทั้งตัวพวกเราและบรรพบุรุษของพวกเรา ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวของพวกเราจนถึงทุกวันนี้ และไม่ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเรา”